Mobile Application คือ โปรแกรมประยุกต์ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้รองรับกับการใช้งานบนสมาร์ตโฟนโดยเฉพาะ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงการใช้งานด้านต่าง ๆ ได้ง่ายยิ่งขึ้น เช่น Mobile Application สำหรับการซื้อสินค้าออนไลน์ หรือ Mobile Banking Application แอปพลิเคชันช่วยจัดการด้านการเงินได้โดยไม่ต้องไปสาขา หรือเกมในสมาร์ตโฟนที่นิยมเล่นกันก็จัดเป็น Mobile Application เช่นเดียวกัน
Mobile Application ถูกคิดค้นและพัฒนาโดยผ่านกระบวนการ Mobile App Development ซึ่งมีรายละอียดมากมาย ทั้งการวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภคหรือการคิด และออกแบบฟีเจอร์ต่าง ๆ ให้รองรับกับการใช้งานที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคมากที่สุด ทำให้ Mobile Application เป็นตัวช่วยที่สามารถพัฒนาศักยภาพด้านต่าง ๆ ของการใช้งานสมาร์ตโฟนได้เป็นอย่างดี ซึ่ง Mobile Application สามารถแบ่งได้หลายประเภท และยังมีการแบ่งตามระบบการใช้งานบนสมาร์ตโฟน ทั้ง iOS และ Android อีกด้วย
Mobile Application ถูกออกแบบมาให้รองรับกับการใช้งานในหลากหลายอุปกรณ์ หลากหลายระบบปฏิบัติการ โดยสามารถแบ่งประเภทของ Mobile Application ออกได้ทั้งหมด 3 ประเภทหลักด้วยกัน ดังนี้
Hybrid Application: Mobile Application ที่ Developer พัฒนามาเพื่อให้สามารถใช้ได้กับทุกระบบปฏิบัติการ ทั้ง Android และ iOS โดยนำเอา Framework เข้ามาช่วยในการทำงาน เพื่อให้สามารถใช้งานได้ทุกระบบอีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อถึงกันได้แม้จะเป็นระบบปฏิบัติการคนละประเภทกันก็ตาม ข้อดีของ Mobile Application ประเภทนี้คือการดูแลและปรับปรุงที่ทำได้ง่าย รวดเร็วกว่าประเภทอื่น และเป็นประเภทที่นักพัฒนานิยมเขียนออกมามากที่สุด
Native Application: ประเภทของ Mobile Application ที่อยู่ตรงข้ามกับแบบไฮบริด ถูกออกแบบมาเพื่อใช้กับแพลตฟอร์ม หรืออุปกรณ์เฉพาะตามแต่ละระบบปฏิบัติการ ซึ่งข้อดีของ Mobile Application ประเภทนี้ที่ Developer เขียนขึ้นมาคือการทำงานของแอปพลิเคชันจะมีประสิทธิภาพสูงกว่าประเภทอื่น ๆ ทั้งด้านของความเร็ว การใช้งานบนโหมดออฟไลน์ ตลอดจนการปรับแต่งหน้าจอการใช้งานของ Mobile Application ก็สามารถกำหนดเองได้เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งานในแต่ละคนด้วย
Web Application: แอปพลิเคชันที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้สามารถใช้งานบนเว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) ได้ ข้อดีของ Web Application คือไม่ต้องทำการติดตั้งก็สามารถใช้งานได้ทันที เพียงแต่จำเป็นต้องเชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตทุกครั้ง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการใช้ Web Application จะมีความยืดหยุ่นสูงและใช้งานได้ง่ายกับทุกอุปกรณ์ แต่เมื่อเปรียบเทียบแล้ว Mobile Application บนสมาร์ตโฟนจะมีความรวดเร็วในการใช้งาน และเข้าถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ ได้รวดเร็วกว่า รวมทั้งยังสามารถปรับแต่งการใช้งานได้อย่างมีอิสระมากกว่า ดังนั้นเพื่อให้ตอบโจทย์กับผู้บริโภคได้มากที่สุด การมี Web Application ควบคู่ไปกับ Mobile Application จะช่วยสร้างประสบการณ์ในการใช้งานให้กับผู้บริโภคได้มากที่สุด และช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจได้มากขึ้นด้วย
การมี Mobile Application ที่ดีจะต้องผ่านการวิเคราะห์ ออกแบบ และทดสอบโดยนักพัฒนามาแล้วเป็นอย่างดีก่อนเปิดใช้งานจริง เพื่อให้ผลลัพธ์ในการใช้ Mobile Application สร้างประสบการณ์ที่ดีต่อผู้ใช้งาน และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคมากที่สุด เหมือนกับที่ Cube SoftTech บริษัท IT Solution และ IT Outsource & Recruitment บริษัทที่มีความรู้และความเข้าใจในการพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อธุรกิจ มีประสบการณ์ในการวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภคเพื่อออกแบบแอปพลิเคชันที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานจริง
นอกจากจะให้บริการ IT Solution แล้ว Cube SoftTech ยังเน้นส่งออก และให้บริการคัดสรรพนักงาน IT Outsourcing ที่มีประสบการณ์สำหรับธุรกิจที่ต้องการทีมงานที่มีทักษะเฉพาะทางด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ เพื่อเข้าไปดูแลระบบไอทีขององค์กรโดยเฉพาะ สำหรับใครที่สนใจพัฒนา Software, Mobile Application หรือทีมงาน IT Oursourcing เราพร้อมให้บริการ
การพัฒนา Mobile Application ในปัจจุบันกลายเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือใหญ่ Mobile Application ช่วยให้ธุรกิจสามารถเชื่อมต่อกับลูกค้าได้ง่ายขึ้น รวมถึงสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งาน แต่สำหรับธุรกิจที่ต้องการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาดนั้น การมี Mobile Application เป็นเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนธุรกิจได้อย่างดีเยี่ยม แต่จะเหมาะกับธุรกิจแบบไหนบ้าง? ลองมาดูกัน
สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ Mobile Application เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถค้นหาบ้านหรือที่ดินที่ตรงตามความต้องการได้ง่ายขึ้น ผ่านการแสดงผลข้อมูลที่เป็นระบบและสามารถค้นหาตามเงื่อนไขที่ต้องการ เช่น ราคา พื้นที่ หรือทำเลที่ตั้ง application หมายถึง การนำเสนอข้อมูลและบริการที่ผู้ใช้สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา อีกทั้ง Mobile Application for Real Estate ยังสามารถเชื่อมต่อกับระบบการจองนัดหมายและการติดต่อกับตัวแทนขายได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
ธุรกิจร้านอาหารก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จาก Mobile Application อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการจองโต๊ะ การสั่งอาหารออนไลน์ หรือการทำโปรโมชั่นต่างๆ Mobile Application for Restaurant ช่วยให้ร้านอาหารสามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการร้านได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับลูกค้าโดยการให้ข้อมูลเมนู การจัดส่งอาหาร และการรับคำสั่งซื้อได้ง่ายผ่าน mobile app
ธุรกิจด้านสุขภาพหรือ Healthcare นั้น Mobile Application ถือเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการให้บริการลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการนัดหมายแพทย์ การตรวจสอบผลการตรวจ หรือการติดตามสุขภาพ Mobile Application for Healthcare ยังช่วยในการสื่อสารระหว่างผู้ป่วยและแพทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังสามารถรวมข้อมูลด้านสุขภาพของผู้ใช้งานเพื่อให้แพทย์สามารถวิเคราะห์และให้คำแนะนำที่เหมาะสมได้อีกด้วย mobile application มีอะไรบ้าง ที่สามารถตอบโจทย์ด้านสุขภาพ เช่น แอปพลิเคชันติดตามสุขภาพ แอปสำหรับนัดหมายแพทย์ และแอปให้คำปรึกษาด้านสุขภาพออนไลน์
ในธุรกิจค้าปลีก Mobile Application เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มยอดขายและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า Mobile Application for Retail ช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าที่ต้องการได้ง่ายขึ้น รวมถึงมีการแจ้งเตือนโปรโมชั่นหรือส่วนลดพิเศษที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า นอกจากนี้ยังช่วยให้ธุรกิจสามารถวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเพื่อวางแผนการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ application หมายถึง การใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้ธุรกิจค้าปลีกสามารถบริการลูกค้าได้รวดเร็วและตรงจุดมากขึ้น
Mobile Application เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่เหมาะจะใช้ทำธุรกิจในยุคปัจจุบัน หากธุรกิจของคุณมีช่องทางที่สามารถรองรับผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ที่ใช้สมาร์ตโฟนเป็นหลัก ทั้งการดูรายละเอียดข้อมูลสินค้า และการสั่งซื้อ รับรองได้เลยว่าโอกาสที่ธุรกิจของคุณจะก้าวหน้าได้แบบก้าวกระโดดย่อมมีสูงขึ้นกว่าเดิม รู้อย่างนี้แล้ว ถึงเวลาแล้วหรือยัง? ที่ธุรกิจของคุณจะต้องมี Mobile Application ที่มีประสิทธิภาพเป็นของเป็นของตัวเอง