BLOG

Professional IT People ~ Innovative IT Solutions
IT Staff Outsourcing Services | IT consultants | Custom Software Solutions

freepik__retouch__81794
Tags :

Copilot กับ ChatGPT ต่างกันยังไง? ใช้งานอะไรเมื่อไหร่ดี

SHARES               



ผู้ช่วย AI มีหลายแบบ แล้วควรเลือกแบบไหนดี?


ในยุคที่ AI เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น โดยเฉพาะในการทำงาน คำว่า “ผู้ช่วยอัจฉริยะ” หรือ AI Assistant กลายเป็นคำที่หลายคนคุ้นหู ทั้งจากการใช้งานในแอปทำงาน หรือแม้แต่การคุยกับ AI ผ่านแชท ความท้าทายคือ เมื่อมี AI หลากหลายรูปแบบ เช่น Copilot ซึ่งฝังตัวอยู่ในแอปต่าง ๆ และ ChatGPT ที่คุณคุยผ่านเว็บไซต์หรือแอปโดยตรง – แล้วเราควรเลือกใช้อะไร? หรือจริง ๆ แล้วใช้งานควบคู่กันได้?


บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักความสามารถ ข้อแตกต่าง จุดแข็ง และจุดเหมาะสมของแต่ละตัว เพื่อให้คุณสามารถเลือกใช้ หรือประยุกต์ให้เข้ากับการทำงานของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าคุณจะเป็นพนักงานในองค์กรใหญ่ ฟรีแลนซ์ หรือเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก


ความต่างระหว่าง Copilot และ ChatGPT

ด้าน Copilot ChatGPT
ฝังในแอป ✅ ใช่ เช่น Word, Excel ❌ ใช้งานแยกต่างหาก
เห็นบริบทของไฟล์ ✅ เข้าใจสิ่งที่คุณทำ ❌ ต้องป้อนข้อมูลเอง
ทำงานเชิงรุก ✅ แนะนำสิ่งที่ควรทำต่อ ❌ ตอบเมื่อถูกถามเท่านั้น
ความคิดสร้างสรรค์ ❌ จำกัดตามแอป ✅ ดีมากในงานตีความหรือคิดใหม่
รักษาน้ำเสียง ❌ ยังทำไม่ดีนัก ✅ ปรับตามผู้ใช้ได้


แม้มี Copilot แล้ว ทำไมคนยังใช้ ChatGPT อยู่?

  1. ChatGPT ไม่ผูกกับแอปใด ๆ
    คุณสามารถพูดอะไรก็ได้กับ ChatGPT โดยไม่มีกรอบ เช่น วางแผนโพสต์ สรุปประชุม ออกแบบระบบ — ทำได้หมดในที่เดียว
  2. มีความต่อเนื่องและความสัมพันธ์
    ChatGPT จำได้ว่าคุณชอบอะไร ไม่ชอบอะไร และสามารถปรับตัวให้เหมาะกับสไตล์ของคุณได้ในระยะยาว
  3. เปิดกว้างในความคิดสร้างสรรค์
    ChatGPT เหมาะมากกับงานที่ต้องใช้ความคิด เช่น ตั้งชื่อแบรนด์ วิเคราะห์อารมณ์ หรือเขียนคอนเทนต์ให้มีอารมณ์ร่วม


จะใช้ Copilot และ ChatGPT พร้อมกันได้ยังไง?

งาน ใช้ ChatGPT ใช้ Copilot
ร่างบทความใหม่ ✅ ชัดเจน อารมณ์ดี ❌ ยังไม่เก่งในการเล่าเรื่อง
วิเคราะห์ข้อมูลใน Excel ❌ มองไม่เห็นข้อมูล ✅ เขียนสูตร–กราฟ–สรุปได้ทันที
คิดชื่อแบรนด์ / วางโทนเสียง ✅ คิดสร้างสรรค์สูง ❌ ไม่เข้าใจบริบทเชิงอารมณ์
ตอบคอมเมนต์ลูกค้าให้สุภาพ ✅ ปรับโทนได้ตามสถานการณ์ ❌ มักใช้คำตอบแบบทั่วไป
เขียนอีเมลจากไอเดียในหัว ✅ ช่วยโครงและแก้ไขถ้อยคำ ✅ (ใน Gmail) พิมพ์ให้ตรงนั้นเลย


5 ประเด็นลึกที่ไม่ควรมองข้าม


1. ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว

  • Copilot อาจมีการเข้าถึงเนื้อหาในไฟล์ของคุณตามสิทธิ์ของแอปที่ใช้งาน
  • ChatGPT ไม่บันทึกข้อมูลในบทสนทนาแบบถาวร (ยกเว้นเปิดใช้ Custom Instructions)
  • องค์กรควรตั้งค่าใช้งาน AI ให้สอดคล้องกับนโยบายด้านข้อมูล

2. ความเร็วในการตอบสนอง

  • Copilot ตอบทันทีในแอป เช่น Excel หรือ Word
  • ChatGPT อาจใช้เวลาเล็กน้อย โดยเฉพาะคำถามที่ซับซ้อนหรือขอข้อมูลยาว

3. ความสามารถในการเชื่อมต่อระบบอื่น

  • ChatGPT เชื่อมต่อ API หรือ plugin เพิ่มเติมได้ (ในรุ่น pro)
  • Copilot ยังจำกัดในแอปที่มันฝังอยู่ เช่น Word, Excel, Gmail

4. การใช้งานในบริบทองค์กร vs ส่วนตัว

  • องค์กรขนาดใหญ่ไว้วางใจ Copilot เพราะควบคุมความปลอดภัยและสิทธิ์การใช้งานได้
  • ChatGPT เหมาะกับการคิดคนเดียว ทำงานอิสระ หรือในทีมเล็ก

5.ความเป็นกลางและอคติของ AI

  • ChatGPT ถูกออกแบบให้มีความเป็นกลางสูงในการตอบ
  • Copilot อาจได้รับอิทธิพลจากบริบทในระบบที่ใช้ ซึ่งมีโอกาสเกิด bias ได้


สรุป

Copilot = ผู้ช่วยที่อยู่ในระบบ ช่วยให้ทำงานได้เร็วขึ้นในแอปที่คุณใช้อยู่

ChatGPT = พื้นที่คิด เขียน วางแผน และสื่อสารกับตัวเองอย่างมีอิสระ

คุณไม่จำเป็นต้องเลือกข้าง เพราะเมื่อใช้ทั้งคู่ร่วมกันอย่างเข้าใจ พวกมันจะเสริมกันอย่างลงตัว และทำให้คุณทำงานได้ดีขึ้นกว่าเดิม


FAQ


Q1: ใช้ Copilot และ ChatGPT พร้อมกันได้ไหม?
A: ได้แน่นอน หลายคนใช้ ChatGPT เพื่อคิด และใช้ Copilot เพื่อปฏิบัติในแอป


Q2: Copilot กับ ChatGPT อย่างไหนฟรี?
A: ChatGPT มีแบบฟรี (จำกัดความสามารถ) ส่วน Copilot มักรวมอยู่ในบริการเสียเงินของ Microsoft หรือ Google


Q3: Copilot จะมาแทน ChatGPT ไหม?
A: ไม่มาแทนกัน แต่ใช้งานต่างกันและเสริมกันได้มากกว่า

บทความที่เกี่ยวข้อง



บทความล่าสุด