Mobile App Development
Professional IT People ~ Innovative IT Solutions
IT Staff Outsourcing Services | IT consultants | Custom Software Solutions
“บริการพัฒนาแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟนสำหรับองค์กรโดยผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์”
เพิ่มขีดจำกัดในการแข่งขันทางธุรกิจ พร้อมก้าวสู่ความสำเร็จ ด้วยการพัฒนา Mobile App Development กับทีมพัฒนาซอฟต์แวร์มืออาชีพ ลดภาระงานในองค์กร เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าของคุณ
Mobile App Development คืออะไร
Mobile App Development คือกระบวนการออกแบบและสร้างแอปพลิเคชันที่ใช้กับสมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ตที่สามารถใช้ได้ทั้งสำหรับระบบปฏิบัติการ iOS และ Android มีกระบวนการตั้งแต่การวางแผน การออกแบบ พัฒนาและทดสอบก่อนใช้งานจริง ซึ่งการพัฒนาแอปพลิเคชันบนมือถือนั้นจะมีการคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการรองรับการใช้งาน การออกแบบ UX/UI และประสิทธิภาพของการใช้งาน รวมถึงความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้งานอีกด้วย
4 รูปแบบการทำ Mobile App Development
Progressive Web Applications
เว็บไซต์ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้สามารถทำงานเสมือนแอปพลิเคชันที่ต้องดาวน์โหลดลงเครื่องมากที่สุด สามารถทำงานแบบออฟไลน์ได้ ดาวน์โหลด พร้อม ตอบสนองได้อย่างรวดเร็วสามารถเพิ่มลิงก์บนหน้าจอหลักเพื่อใช้งาน คล้ายแอปพลิเคชันโดยที่ไม่จำเป็นต้องติดตั้งจาก App Store แถมยัง สามารถใช้งาน Push Notification ได้อีกด้วย
Native Mobile Applications
Native Mobile Application หรือ Native App คือการพัฒนาแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟนโดยใช้ภาษาเฉพาะตามที่ผู้พัฒนาอุปกรณ์ได้จัดทำขึ้น เช่น iOS สำหรับอุปกรณ์ Apple ใช้ Object C หรือ Swift บน XCode หรือ Android ที่จะใช้ Java บน Android Studio เป็นต้น
Cross-Platform Native Mobile Applications
การพัฒนา Mobile Application ให้สามารถใช้งานได้แบบ Cross-Platform เช่น การทำให้ระบบปฏิบัติการ iOS และ Android สามารถใช้งานได้โดยที่ใช้ฐานโค้ดเดียวกัน รูปแบบนี้จะช่วยให้ประหยัดต้นทุนสำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชันได้มากยิ่งขึ้น
Hybrid Applications
ทำทุกอย่างให้ง่ายขึ้นด้วยการพัฒนา Mobile Application แบบ Hybrid Application ลูกผสมระหว่าง Native และ Web Application ที่จะทำให้คุณสามารถใช้งาน แอปพลิเคชันได้ทุกแพลตฟอร์มจากการเขียนโค้ดเพียงชุดเดียว มีข้อดีทั้งประหยัดเวลาในการพัฒนาแอปพลิเคชัน ประหยัดต้นทุน อัปเดตง่าย และใช้งานได้อย่างเต็มที่
กระบวนการทำ Mobile App Development กับ CubeSoftTech
การวางแผนและวิเคราะห์ความต้องการ (Planning and Requirement Analysis)
กำหนดเป้าหมายหลักของแอพพลิเคชัน เช่น ฟังก์ชันที่ต้องการ วัตถุประสงค์ทางธุรกิจ รวมรวมและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้และธุรกิจเพื่อให้แน่ใจว่าแอพพลิเคชันที่พัฒนาขึ้นจะตอบสนองความต้องการเหล่านั้นได้
การพัฒนา (Development)
เริ่มการเขียนโค้ดแอปพลิเคชันตามแบบที่ออกแบบไว้ โดยพิจารณาถึงความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพ การบูรณาการ ทำการบูรณาการส่วนต่างๆ ของแอป เช่น ฐานข้อมูล, API, และบริการอื่นๆ ที่จำเป็น
การออกแบบ (Design)
ออกแบบ UI/UX สร้างต้นแบบ (wireframes) และ mockups เพื่อแสดงภาพลักษณ์และโครงสร้างของแอป กำหนดโครงสร้างของระบบ รวมถึงการออกแบบฐานข้อมูลและการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์
การทดสอบ (Testing)
ทดสอบฟังก์ชันต่างๆ ของแอปเพื่อให้แน่ใจว่าทำงานได้ถูกต้อง ตรวจสอบประสิทธิภาพของแอปในสถานการณ์ต่างๆ เช่น การโหลดหนักหรือการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ไม่เสถียร ตรวจสอบความปลอดภัยของแอปเพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลที่ไม่ได้รับอนุญาต
การปรับปรุงและปรับแต่ง (Deployment and Maintenance)
ทำการเผยแพร่แอปพลิเคชันไปยังแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น App Store หรือ Google Play Store ทำการอัปเดตและปรับปรุงแอปตามคำติชมของผู้ใช้ และความต้องการใหม่ๆ
การสนับสนุนและอัปเดต (Support and Updates)
จัดทีมสนับสนุนเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาและตอบคำถามจากผู้ใช้ ทำการอัปเดตแอปเป็นประจำเพื่อปรับปรุงฟีเจอร์และแก้ไขบั๊ก
เหตุผลที่ควรทำ Mobile App Development กับ CubeSoftTech
การพัฒนา Mobile Application กับผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้แอปที่ได้มีคุณภาพ สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เราสามารถเขียนโปรแกรมได้หลายภาษา ไม่ว่าจะเป็น Java, J2EE, JSP, Servlet ASP.NET, VB, VC#, PHP, HTML, AJAX, jQuery, XML เพื่อสร้าง Mobile App ได้ทุกระบบปฏิบัติการ
ดูแลตั้งแต่ต้นจนจบ ตั้งแต่การให้คำปรึกษา การวางแผน ออกแบบ พัฒนา และการติดตามประสิทธิภาพการทำงานของแอปพลิเคชันให้สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
การเลือกใช้บริการทำ Mobile App Development กับองค์กรที่มีความเชี่ยวชาญจะช่วยลดต้นทุนและประหยัดเวลาในการพัฒนาแอปพลิเคชันได้มากกว่า อีกทั้งยังช่วยให้พนักงานในองค์กรของคุณสามารถโฟกัสกับหน้าที่หลักได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Mobile App Development เพื่อธุรกิจของคุณ
Retail (E-Commerce / Stock Management)
การสร้างระบบหน้าร้านเพื่อการเพิ่มยอดการขายที่มากขึ้น สร้าง Brand Loyalty หรือส่วนหลังบ้านก็สามารถช่วยจัดการสต๊อกสินค้าได้อย่างเป็นระบบ
Education (E-Learning / Teaching and Learning Management)
การเรียนรู้จะไม่จบแค่ในห้องเรียนเท่านั้น เพราะสามารถใช้แอปพลิเคชันเป็นสื่อการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพได้ หรืออาจทำระบบวัดระดับความรู้ และวัดประสิทธิภาพหลังการเรียนได้ด้วย
Entertainment and Media
สามารถเผยแพร่เนื้อหาบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นหนัง ซีรีส์ เพลง หรืออื่น ๆ ได้ผ่านแอปพลิเคชัน ให้ผู้ใช้งานสามารถรับชมได้ทุกที่ทุกเวลา และสามารถปรับเนื้อหาแสดงตามความสนใจของผู้ใช้ได้
Travel (Booking / Traveling)
การสร้างระบบหน้าร้านเพื่อการเพิ่มยอดการขายที่มากขึ้น สร้าง Brand Loyalty หรือส่วนหลังบ้าน ก็สามารถ ช่วยจัดการสต๊อกสินค้าได้อย่างเป็น ระบบ
Financial Services (Banking / Investment)
สามารถทำธุรกรรมการเงินได้ง่ายเพียงแค่ปลายนิ้ว พร้อมระบบความปลอดภัยสูงสุด
Healthcare
ช่วยให้เข้าถึงการให้บริการด้านสุขภาพง่ายยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นการให้คำปรึกษาทางการแพทย์หรือติดตามอาการผู้ป่วยแบบเรียลไทม์
