BLOG

Professional IT People ~ Innovative IT Solutions
IT Staff Outsourcing Services | IT consultants | Custom Software Solutions

web-application
Tags :

Web Application คืออะไร แตกต่างจากเว็บไซต์ปกติอย่างไรบ้าง

SHARES               




Web Application Icon

ในปัจจุบันเราจำเป็นต้องใช้ Mobile Application และ Web Browser สำหรับใช้งาน Website ต่าง ๆ ในสมาร์ตโฟนแต่การใช้งาน Website ในสมาร์ตโฟนนั้นอาจมีความยุ่งยากเนื่องจากเว็บไซต์บางตัวไม่รองรับการใช้งานบนสมาร์ตโฟน และการดาวน์โหลดแอปก็อาจเปลืองทรัพยากรความจำมือถือ ปัญหาเหล่านี้ทำให้ Web Developer ได้ออกแบบ Web Application สำหรับใช้งานบนสมาร์ตโฟน และปัจจุบันก็ได้มีการใช้งาน Web Application อย่างแพร่หลายเพื่อจุดประสงค์ทางธุรกิจมากขึ้น


บทความนี้ Cubesoft Tech จะพาทุกคนมาทำความเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่าง Web application และเว็บไซต์ธรรมดาแตกต่างกันอย่างไร พร้อมยกตัวอย่าง Web application ที่นิยมใช้ในปัจจุบัน เพื่อให้ทุกคนเห็นภาพได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

Web Application คืออะไร

อาจมีคำถามว่า Web Application หมายถึงอะไร ทำไมถึงเป็นที่นิยมในการใช้งาน? Web Application หรือชื่อเต็มว่า web based application คือ การเขียนระบบ Application ให้สามารถใช้งานได้ในรูปแบบของเว็บไซต์บนหน้า Browser ปกติได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดแอปเพิ่มเติม ทำให้ตอบโจทย์การใช้งานเว็บไซต์ในรูปแบบของ Web Application ที่มี Development มาให้รองรับบนสมาร์ตโฟน และใช้ทรัพยากรค่อนข้างน้อย


Web Application แตกต่างจาก Website ปกติอย่างไร

Web Application แตกต่างกับ Website ทั่วไปตรงที่ Website ปกติจะเป็นหน้าเว็บที่ให้ข้อมูลแก่ผู้ใช้ เช่น เว็บไซต์ข่าว บล็อก หรือเว็บไซต์องค์กรที่มีเนื้อหาคงที่หรือมีการอัปเดตเป็นครั้งคราว ส่วน Web Application จะเป็นเว็บไซต์ที่มีการโต้ตอบกับผู้ใช้มากขึ้น เช่น เว็บแอปพลิเคชันธนาคารออนไลน์ ระบบจัดการเนื้อหา (CMS) หรือแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เป็นต้น

ตัวอย่าง Web Application ที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน มีอะไรบ้าง

ในยุคดิจิทัล เว็บแอปพลิเคชัน (Web Application) ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้การทำงานและการสื่อสารมีประสิทธิภาพมากขึ้น เว็บแอป (Web App) ทำงานผ่านเว็บเบราว์เซอร์ ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมเพิ่มเติม ทำให้สะดวกและเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา มาดูกันว่าเว็บแอปพลิเคชันใดที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน


  • Google Workspace รวบรวมเครื่องมือทำงานร่วมกัน เช่น Google Drive, Docs, Sheets, และ Slides รวมถึง Google Meet สำหรับการประชุมออนไลน์ ความสามารถในการทำงานแบบเรียลไทม์ทำให้เป็นที่นิยมในองค์กรและสถานศึกษา

  • Microsoft 365 ประกอบด้วยเครื่องมือยอดนิยมอย่าง Word, Excel, PowerPoint ที่ใช้งานออนไลน์ได้โดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรม รวมถึง Outlook สำหรับอีเมล และ OneDrive สำหรับจัดเก็บไฟล์บนคลาวด์ ทำให้เป็นที่นิยมในหลายองค์กร

  • Slack ออกแบบมาเพื่อการสื่อสารภายในองค์กร มีฟีเจอร์สำหรับแชท การสร้างช่องทางสื่อสาร การแชร์ไฟล์ และการเชื่อมต่อกับเว็บแอปพลิเคชันอื่นๆ เช่น Google Drive และ Trello ทำให้การทำงานร่วมกันสะดวกและรวดเร็ว

  • Zoom เป็นเว็บแอปพลิเคชันที่นิยมใช้ในการจัดประชุมออนไลน์ ด้วยฟีเจอร์การประชุมวีดีโอ การแชร์หน้าจอ และการบันทึกการประชุม ทำให้ Zoom เป็นที่นิยมในธุรกิจ การศึกษา และการสื่อสารส่วนบุคคล

  • Trello เป็นเว็บแอปพลิเคชันสำหรับการจัดการโปรเจกต์ ใช้บอร์ดและการ์ดในการติดตามงาน ฟีเจอร์ที่ใช้งานง่ายและความยืดหยุ่นสูงทำให้ Trello เป็นที่นิยมในการบริหารจัดการงานและโครงการ

4 ขั้นตอนการทำงานของ Web Application

    Web Application

    ขั้นตอนการทำงานของ Web Application มีอะไรบ้าง? เว็บแอปพลิเคชันจะทำงานร่วมกับ 4 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่ Web Server, Application Server, Database และ Web Browser โดยทั้ง 4 ส่วนจะทำหน้าที่ร่วมกันเป็นขั้นตอน ดังนี้

    1. ผู้ใช้งานเริ่มต้นส่งคำขอไปที่ Web Server จากนั้น Web Server จะส่งคำขอต่อไปที่ Application Server

    2. Application Server จัดการดำเนินตามคำสั่งที่ได้รับ ประมวลผลผ่าน Database

    3. Application Server สร้างผลลัพธ์ และส่งผลลัพธ์กลับไปให้ Web Server

    4. Web Server ส่งผลลัพธ์ไปที่อุปกรณ์เพื่อนำเสนอบนจอแสดงผลของผู้ใช้งาน

    สร้าง Web Application ควรจ้างที่ไหนดี?


    ถึงแม้ว่า Web Application จะถูกออกแบบหน้าเว็บมาให้ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน แต่การสร้าง Web Application ง่าย ๆ อาจเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก เนื่องจากการทำหน้าเว็บแอปพลิเคชันออกมาให้สามารถเข้าถึงการใช้งานของผู้ใช้พร้อมฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่อำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้งานนั้นจะต้องผ่านกระบวนการด้านซอฟต์แวร์ และการเขียนโปรแกรมที่ซับซ้อน จึงจำเป็นที่จะต้องเลือกใช้บริการจากบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีดิจิทัลโซลูชันที่มีบุคลากรที่เชี่ยวชาญเรื่อง Software Development ทั้งในส่วนของ Front End และ Full Stack Developer เพราะการทำโปรแกรม Web Application เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานซึ่งเป็นฐานกลุ่มลูกค้านั้นเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ


    CubeSoftTech เป็นบริษัททางด้าน IT Outsource ที่ให้บริการพัฒนาซอฟต์แวร์ดิจิทัลที่มีคุณภาพสูง ทีมงานเชี่ยวชาญและมีประสิทธิภาพในด้านของการทำ Web Application และด้านไอที พร้อมให้คำแนะนำปรึกษา พัฒนาและจัดการการสร้างเว็บและเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตต่าง ๆ ให้ตอบโจทย์กับความต้องการได้มากที่สุดด้วยกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์ (SDLC) ให้บริการได้หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นการจัดการ Stock สินค้า, ระบบการสั่งซื้อ, Sale Order Workflow, ระบบธนาคาร, Web Application สำหรับธุรกิจออนไลน์, ระบบ CRM และอื่น ๆ แบบครบวงจร

    Web Application ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน ยกระดับคุณภาพธุรกิจ

    Web Application เป็นการเขียนระบบเว็บไซต์ให้อยู่ในรูปแบบของ Web Application ที่สามารถรองรับให้ใช้งานได้บนสมาร์ตโฟนโดยที่ไม่ต้องดาวน์โหลดแอปเพิ่ม โดยมีจุดประสงค์หลักคือให้ผู้ใช้งานสามารถจัดการข้อมูล Interact กับเว็บ และสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องใช้งานคอมพิวเตอร์เพื่อใช้งาน Web Application


    การทำ Web Application นอกจากเรื่องการใช้งานด้านข้อมูลแล้ว ส่วนใหญ่ก็จะใช้เพื่อจุดประสงค์ทางการตลาด ดังนั้นผู้ที่ต้องการทำเว็บแอปพลิเคชันจะต้องคำนึงถึงความสำคัญในการพัฒนาระบบให้สามารถตอบโจทย์และอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าได้ โดย Web Application ตัวอย่างที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายก็จะใช้สำหรับจองคิวร้านค้าและบริการ, แปลภาษา, ร้านค้าออนไลน์ หรือระบบสุ่มต่าง ๆ การเลือกใช้บริการบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ เชี่ยวชาญด้านดิจิทัลและพัฒนาซอฟต์แวร์ก็จะเป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับการทำ Web Application


    หากกำลังมองหาบริษัทสร้าง Web Application ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้ CubeSoftTech พร้อมไปด้วยทีมงานคุณภาพระดับสูงเพื่อการพัฒนาซอฟต์แวร์ ดูแลให้คำปรึกษาตั้งแต่เริ่มจนจบกระบวนการด้วยประสบการณ์ให้บริการเพื่อธุรกิจหลากหลายประเภท พร้อมยกระดับธุรกิจของคุณไปอีกขั้น

    บทความที่เกี่ยวข้อง



    บทความล่าสุด