BLOG

Professional IT People ~ Innovative IT Solutions
IT Staff Outsourcing Services | IT consultants | Custom Software Solutions

ภาพจำลองการใช้งาน AI ผ่านแท็บเล็ต เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจด้านสิ่งแวดล้อมและธุรกิจอย่างยั่งยืน
Tags :

Copilot กับ ChatGPT ต่างกันยังไง? ใช้งานอะไรเมื่อไหร่ดี

Last updated : 2025-06-06 10:00:00.0

SHARES               



ผู้ช่วย AI มีหลายแบบ แล้วควรเลือกแบบไหนดี?


ในยุคที่ AI เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น โดยเฉพาะในการทำงาน คำว่า “ผู้ช่วยอัจฉริยะ” หรือ AI Assistant กลายเป็นคำที่หลายคนคุ้นหู ทั้งจากการใช้งานในแอปทำงาน หรือแม้แต่การคุยกับ AI ผ่านแชท ความท้าทายคือ เมื่อมี AI หลากหลายรูปแบบ เช่น Copilot ซึ่งฝังตัวอยู่ในแอปต่าง ๆ และ ChatGPT ที่คุณคุยผ่านเว็บไซต์หรือแอปโดยตรง – แล้วเราควรเลือกใช้อะไร? หรือจริง ๆ แล้วใช้งานควบคู่กันได้?


บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักความสามารถ ข้อแตกต่าง จุดแข็ง และจุดเหมาะสมของแต่ละตัว เพื่อให้คุณสามารถเลือกใช้ หรือประยุกต์ให้เข้ากับการทำงานของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าคุณจะเป็นพนักงานในองค์กรใหญ่ ฟรีแลนซ์ หรือเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก


ความต่างระหว่าง Copilot และ ChatGPT

ด้าน Copilot ChatGPT
ฝังในแอป ✅ ใช่ เช่น Word, Excel ❌ ใช้งานแยกต่างหาก
เห็นบริบทของไฟล์ ✅ เข้าใจสิ่งที่คุณทำ ❌ ต้องป้อนข้อมูลเอง
ทำงานเชิงรุก ✅ แนะนำสิ่งที่ควรทำต่อ ❌ ตอบเมื่อถูกถามเท่านั้น
ความคิดสร้างสรรค์ ❌ จำกัดตามแอป ✅ ดีมากในงานตีความหรือคิดใหม่
รักษาน้ำเสียง ❌ ยังทำไม่ดีนัก ✅ ปรับตามผู้ใช้ได้


แม้มี Copilot แล้ว ทำไมคนยังใช้ ChatGPT อยู่?

  1. ChatGPT ไม่ผูกกับแอปใด ๆ
    คุณสามารถพูดอะไรก็ได้กับ ChatGPT โดยไม่มีกรอบ เช่น วางแผนโพสต์ สรุปประชุม ออกแบบระบบ — ทำได้หมดในที่เดียว
  2. มีความต่อเนื่องและความสัมพันธ์
    ChatGPT จำได้ว่าคุณชอบอะไร ไม่ชอบอะไร และสามารถปรับตัวให้เหมาะกับสไตล์ของคุณได้ในระยะยาว
  3. เปิดกว้างในความคิดสร้างสรรค์
    ChatGPT เหมาะมากกับงานที่ต้องใช้ความคิด เช่น ตั้งชื่อแบรนด์ วิเคราะห์อารมณ์ หรือเขียนคอนเทนต์ให้มีอารมณ์ร่วม


จะใช้ Copilot และ ChatGPT พร้อมกันได้ยังไง?

งาน ใช้ ChatGPT ใช้ Copilot
ร่างบทความใหม่ ✅ ชัดเจน อารมณ์ดี ❌ ยังไม่เก่งในการเล่าเรื่อง
วิเคราะห์ข้อมูลใน Excel ❌ มองไม่เห็นข้อมูล ✅ เขียนสูตร–กราฟ–สรุปได้ทันที
คิดชื่อแบรนด์ / วางโทนเสียง ✅ คิดสร้างสรรค์สูง ❌ ไม่เข้าใจบริบทเชิงอารมณ์
ตอบคอมเมนต์ลูกค้าให้สุภาพ ✅ ปรับโทนได้ตามสถานการณ์ ❌ มักใช้คำตอบแบบทั่วไป
เขียนอีเมลจากไอเดียในหัว ✅ ช่วยโครงและแก้ไขถ้อยคำ ✅ (ใน Gmail) พิมพ์ให้ตรงนั้นเลย


5 ประเด็นลึกที่ไม่ควรมองข้าม


1. ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว

  • Copilot อาจมีการเข้าถึงเนื้อหาในไฟล์ของคุณตามสิทธิ์ของแอปที่ใช้งาน
  • ChatGPT ไม่บันทึกข้อมูลในบทสนทนาแบบถาวร (ยกเว้นเปิดใช้ Custom Instructions)
  • องค์กรควรตั้งค่าใช้งาน AI ให้สอดคล้องกับนโยบายด้านข้อมูล

2. ความเร็วในการตอบสนอง

  • Copilot ตอบทันทีในแอป เช่น Excel หรือ Word
  • ChatGPT อาจใช้เวลาเล็กน้อย โดยเฉพาะคำถามที่ซับซ้อนหรือขอข้อมูลยาว

3. ความสามารถในการเชื่อมต่อระบบอื่น

  • ChatGPT เชื่อมต่อ API หรือ plugin เพิ่มเติมได้ (ในรุ่น pro)
  • Copilot ยังจำกัดในแอปที่มันฝังอยู่ เช่น Word, Excel, Gmail

4. การใช้งานในบริบทองค์กร vs ส่วนตัว

  • องค์กรขนาดใหญ่ไว้วางใจ Copilot เพราะควบคุมความปลอดภัยและสิทธิ์การใช้งานได้
  • ChatGPT เหมาะกับการคิดคนเดียว ทำงานอิสระ หรือในทีมเล็ก

5.ความเป็นกลางและอคติของ AI

  • ChatGPT ถูกออกแบบให้มีความเป็นกลางสูงในการตอบ
  • Copilot อาจได้รับอิทธิพลจากบริบทในระบบที่ใช้ ซึ่งมีโอกาสเกิด bias ได้


สรุป

Copilot = ผู้ช่วยที่อยู่ในระบบ ช่วยให้ทำงานได้เร็วขึ้นในแอปที่คุณใช้อยู่

ChatGPT = พื้นที่คิด เขียน วางแผน และสื่อสารกับตัวเองอย่างมีอิสระ

คุณไม่จำเป็นต้องเลือกข้าง เพราะเมื่อใช้ทั้งคู่ร่วมกันอย่างเข้าใจ พวกมันจะเสริมกันอย่างลงตัว และทำให้คุณทำงานได้ดีขึ้นกว่าเดิม


FAQ


Q1: ใช้ Copilot และ ChatGPT พร้อมกันได้ไหม?
A: ได้แน่นอน หลายคนใช้ ChatGPT เพื่อคิด และใช้ Copilot เพื่อปฏิบัติในแอป


Q2: Copilot กับ ChatGPT อย่างไหนฟรี?
A: ChatGPT มีแบบฟรี (จำกัดความสามารถ) ส่วน Copilot มักรวมอยู่ในบริการเสียเงินของ Microsoft หรือ Google


Q3: Copilot จะมาแทน ChatGPT ไหม?
A: ไม่มาแทนกัน แต่ใช้งานต่างกันและเสริมกันได้มากกว่า

บทความที่เกี่ยวข้อง



บทความล่าสุด