ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว เราแทบจะไม่ทันสังเกตว่า AI ในชีวิตประจำวัน เข้ามามีบทบาทในทุกช่วงของการใช้ชีวิต ทั้งการทำงาน การพักผ่อน หรือแม้แต่การดูแลสุขภาพ เทคโนโลยี AI ได้ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเราให้ดีขึ้นในหลากหลายมิติ จนกลายเป็นส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้ในสังคมยุคใหม่
ในบทความนี้จะพาทุกคนไปทำความรู้จักเพิ่มเติมกับ AI ในชีวิตประจำวันที่อยู่รอบตัวทุกคนตั้งแต่ AI ในยุคปัจจุบันมีอะไรบ้าง พร้อมยกตัวอย่าง AI ในชีวิตประจําวัน และประโยชน์ของ AI ในชีวิตประจําวันที่คุณควรรู้
AI หรือเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เป็นการนำข้อมูลจำนวนมหาศาลมากมาเทรนผ่านกระบวนการ Machine Learning ผ่านอัลกอริทึมที่ซับซ้อน ทำให้ AI สามารถจดจำรูปแบบ วิเคราะห์ และตัดสินใจได้คล้ายมนุษย์
นวัตกรรม AI ในชีวิตประจําวันได้พัฒนาจนสามารถทำงานที่ซับซ้อนได้หลากหลายแบบ ตั้งแต่การแปลภาษา การวิเคราะห์ภาพ ไปจนถึงการสร้างสรรค์งานศิลปะและดนตรี โดยผู้ใช้งานสามารถพิมพ์คำสั่งหรือ Prompt ที่เฉพาะเจาะจง เพื่อให้ Generative AI สร้างผลลัพธ์ตามที่ต้องการได้
อย่างไรก็ตาม ความก้าวหน้าของ AI ก็นำมาซึ่งความท้าทายใหม่ ๆ อย่างเช่น เทคโนโลยี Deepfake คือ AI ที่สามารถสร้างภาพและวิดีโอที่สมจริงจนแยกแยะได้ยาก ซึ่งเป็นประเด็นที่สังคมต้องตระหนักและพัฒนา มาตรการรับมือที่เหมาะสม เพื่อให้การใช้งาน AI เกิดประโยชน์สูงสุดและปลอดภัยสำหรับทุกคน
Tip : ทำความเข้าใจเพิ่มเติมว่า Machine Learning คืออะไร? และ Prompt คืออะไร?
เราลองมาดูกันว่าการใช้ AI ในชีวิตประจําวันมีอะไรบ้าง หลายคนอาจไม่ทันสังเกตว่าในตอนนี้เทคโนโลยี AI ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเราแล้ว โดยต่อไปนี้คือ AI ในชีวิตประจําวันพร้อมตัวอย่าง ที่เราใช้กันอยู่เป็นประจำ
ทุกครั้งที่เราดูวิดีโอหรือภาพยนตร์บนสตรีมมิ่ง AI จะวิเคราะห์พฤติกรรมการรับชมของเรา ทั้งประเภท เนื้อหา ระยะเวลาการรับชม และการมีส่วนร่วมกับคอนเทนต์ต่าง ๆ จากนั้นจะประมวลผลและเรียนรู้รสนิยมของเรา เพื่อแนะนำเนื้อหาที่เราน่าจะชอบในครั้งต่อไป ทำให้เราเจอคอนเทนต์ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจได้โดยไม่ต้องเสียเวลาค้นหานาน ๆ
อีกหนึ่ง AI ในชีวิตประจำวันที่เราใช้งานกันอยู่บ่อย ๆ อย่างเทคโนโลยี Face ID ที่ใช้ AI ในการสแกนและจดจำลักษณะเฉพาะของใบหน้าผู้ใช้งาน โดยการสร้างแผนที่ใบหน้า แบบ 3 มิติจากจุดสำคัญกว่าพันจุด เมื่อเราต้องการปลดล็อกโทรศัพท์ AI จะทำการเปรียบเทียบใบหน้า ที่สแกนได้กับข้อมูลที่บันทึกไว้ในระบบทำให้การปลดล็อกอุปกรณ์มีความปลอดภัยและสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
AI ภายในแอปพลิเคชันแปลภาษาไม่เพียงแต่เป็นการแปลคำต่อคำ แต่ยังเข้าใจบริบทและวัฒนธรรมของ ภาษาต้นทางและปลายทาง ด้วยการเรียนรู้จากฐานข้อมูลการแปลขนาดใหญ่ ทำให้ผลลัพธ์ในการแปลมี ความเป็นธรรมชาติ เหมาะกับการสื่อสารในชีวิตประจำวัน รวมถึงมีความสามารถในการแปลแบบ Realtime ผ่านกล้องและเสียงอีกด้วย
Smart Assistant หรือผู้ช่วยอัจฉริยะอย่าง Siri, Google Assistant และ Alexa ก็ใช้ AI ในการประมวลผล ด้านภาษาเช่นกัน เพื่อเข้าใจคำสั่งเสียงของผู้ใช้งาน และตอบสนองได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการตั้ง นาฬิกาปลุก เปิดเพลง ค้นหาข้อมูล หรือควบคุมอุปกรณ์ IoT ภายในบ้าน โดย AI จะเรียนรู้และปรับปรุงความแม่นยำ ในการตอบสนองจากการใช้งานที่มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
หลายคนอาจไม่รู้ว่ากล้องในสมาร์ตโฟนก็เป็น AI ที่เราใช้ในชีวิตประจำวันเช่นกัน โดยจะใช้ AI ในการปรับแต่งภาพอัตโนมัติ ตั้งแต่การจดจำวัตถุและฉาก การปรับค่าแสง การเบลอฉากหลัง ไปจนถึงการแต่งหน้าและปรับผิวอัตโนมัติ ซึ่ง AI จะวิเคราะห์องค์ประกอบต่าง ๆ ในภาพและปรับแต่งให้ได้ภาพที่สวยงามที่สุด โดยที่ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านการถ่ายภาพมากนัก
Google Maps และแอปนำทางต่าง ๆ ก็ใช้เทคโนโลยี AI ในชีวิตประจําวันเช่นกัน ผ่านการวิเคราะห์สภาพการจราจรแบบ Realtime โดยประมวลผลข้อมูลจากผู้ใช้งานจำนวนมาก เพื่อคำนวณเส้นทางที่เหมาะสมที่สุด ซึ่ง AI จะเรียนรู้รูปแบบการจราจรในแต่ละช่วงเวลา คาดการณ์เวลาเดินทาง และแนะนำเส้นทางสำรองเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ทำให้การเดินทางสะดวกและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ระบบกรองสแปมในอีเมลก็เป็นการประยุกต์ใช้ AI ในชีวิตประจําวัน โดย AI จะทำหน้าที่วิเคราะห์เนื้อหา และรูปแบบของอีเมลที่เข้ามา ผ่านการเรียนรู้จากฐานข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อแยกแยะระหว่างอีเมลปกติและสแปม ทำให้ระบบสามารถเรียนรู้และปรับตัวตามพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้งาน เช่น การทำเครื่องหมายว่าเป็นสแปมหรือไม่ใช่สแปม ช่วยให้กล่องจดหมายของเราสะอาดและปลอดภัยจากอีเมลที่ไม่พึงประสงค์
คล้ายกับระบบแนะนำบนสตรีมมิ่ง แอปฟังเพลงต่าง ๆ อย่าง Spotify ก็ใช้ AI ในการวิเคราะห์รสนิยมการฟังเพลงของผู้ใช้งาน โดยพิจารณาจากประวัติการฟัง การข้ามเพลง และการกดถูกใจ เพื่อสร้างเพลย์ลิสต์ที่เหมาะสมกับแต่ละคน นอกจากนี้ยังสามารถแนะนำศิลปินและเพลงใหม่ ๆ ที่ตรงกับรสนิยมของผู้ใช้งานได้อีกด้วย ทำให้การค้นพบเพลงใหม่ ๆ เป็นเรื่องที่สนุกและง่ายยิ่งขึ้น
อีกหนึ่งการประยุกต์ใช้ AI ในชีวิตประจําวันที่ส่งผลต่อการทำธุรกิจเป็นอย่างมาก คือการนำ AI มาใช้ ในระบบตอบคำถามอัตโนมัติ โดย AI สามารถเข้าใจคำถามของลูกค้า และตอบกลับด้วยข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ทำให้ระบบสามารถจัดการกับคำถามพื้นฐานทั่วไปได้ตลอด 24 ชั่วโมง ลดภาระของพนักงาน และให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ในกรณีที่คำถามซับซ้อนเกินความสามารถ AI จะส่งต่อให้พนักงานดูแลต่อไป
กล้องวงจรปิดสมัยใหม่มีการใช้ AI เข้ามาช่วยในการตรวจจับความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ การจดจำใบหน้า และวิเคราะห์พฤติกรรมที่น่าสงสัย ระบบสามารถแจ้งเตือนเมื่อพบเหตุการณ์ผิดปกติ เช่น การบุกรุก หรือการทิ้งวัตถุต้องสงสัย ทำให้การรักษาความปลอดภัยมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และสามารถป้องกันเหตุร้ายได้ในทันที
ในยุคที่ AI ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตของผู้คน ทำให้เกิดประโยชน์มากมายที่ ส่งผลดีต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเรา โดยข้อดีและบทบาท ของ AI ในชีวิตประจําวันจะมีดังนี้
ระบบ AI ในชีวิตประจําวันได้กลายเป็นส่วนสำคัญในการใช้ชีวิตของผู้คนในปัจจุบันโดยที่เราไม่รู้ตัว ตั้งแต่ การเดินทางที่มีระบบนำทางช่วยหาเส้นทางที่ดีที่สุด การทำงานที่มี AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ไปจนถึงความบันเทิงที่ถูกปรับแต่งให้เหมาะกับความชอบของแต่ละคน เทคโนโลยี AI ไม่เพียงแต่ช่วยให้ชีวิตสะดวกสบายขึ้น แต่ยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและการเข้าถึงบริการต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สำหรับใครที่มีความสนใจเกี่ยวกับการนำ AI มาประยุกต์ใช้ภายในองค์กร สามารถปรึกษา Cube Softtech เพิ่มเติมได้ เราเป็นบริษัท IT Outsource ที่มีประสบการณ์ในการพัฒนาระบบมากกว่า 10 ปี พร้อมให้คำปรึกษาและบริการด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชันแบบครบวงจร